วันอังคารที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2553

กินข้าวโพดกันนะ

ข้าวโพดสุกต้านมะเร็ง

ผลงานวิจัยในวารสารสมาคมเคมีแห่งอเมริกา ตีพิมพ์ผลงานของนักวิจัย

จากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์แห่งสหรัฐอเมริกาว่า ข้าวโพดหวานที่ต้มสุกแล้ว

จะมีฤทธิ์ในการล้างพิษภายในร่างกายได้สูงกว่าปกติ

ในข้าวโพดหวานตามธรรมชาติ จะมีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)

อยู่ และมีตัวที่สำคัญคือ

กรดเฟรุลิก (Felrulic Acid) จึงถูกใช้สำหรับต่อต้านการแก่ (aging) ป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง

โรคหัวใจ ไข้หวัด รักษาสุขภาพของกล้ามเนื้อ ต่อต้านผลกระทบจากรังสีอัลตราไวโอเลต

(จึงป้องกันมะเร็งผิวหนังได้)

จากผลการวิจัยพบว่า การต้มข้าวโพดที่ 115 องศาเซลเซียส มีผลดังนี้

เวลาที่ใช้ในการต้ม

ปริมาณของสารต้านอนุมูลอิสระ

ปริมาณของกรดเฟรุลิก

10 นาที

เพิ่มขึ้น 22%

เพิ่มขึ้น 240%

25 นาที

เพิ่มขึ้น 44%

เพิ่มขึ้น 550%

50 นาที

เพิ่มขึ้น 53%

เพิ่มขึ้น 900%

ำให้สรุปได้ว่า ข้าวโพดหวานที่ผ่านการต้มหรือปิ้ง
มีปริมาณของสารต้านอนุมูลอิสระ และกรดเฟรุลิก
ซึ่งมีประโยชน์สำหรับร่างกายเพิ่มมากขึ้น

เมื่อถูกความร้อนสูงขึ้นหรือเป็นเวลานานขึ้น
แต่จะสูญเสียวิตามินบางตัว เช่น วิตามินซี ไปบ้าง
อย่างไรก็ตามข้าวโพดก็ไม่ใช่แหล่งที่ดีสำหรับ
วิตามินซีอยู่แล้ว

ที่มา : นิตยสารใกล้หมอ ปีที่ 31 ฉบับที่ 6 เดือนกรกฎาคม 2550,

วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2553

งานประดิษฐ์ยามว่าง


ข็มกลัดหัวใจ

อุปกรณ์

  • ปูนปลาสเตอร์
  • อ่างผสม และช้อนผสม
  • แบบพิมพ์รูปหัวใจ สามารถใช้ถาดวุ้น , ช็อคโกแลต
  • สีอะคลิลิคสีสดใสตามชอบ
  • สเปรย์เคลือบเงา
  • เข็มกลัด



วิธีทำ

  • ผสมปูนปลาสเตอร์กับน้ำในอ่านผสม คนให้เข้ากัน
  • หยอดส่วนผสมลงใบแบบพิมพ์พลาสติก ระวังอย่าให้ล้นหรือสูงกว่าขอบ
  • ทิ้งไว้ให้ปูนเซตตัว 1- 2 นาที วางเข็มกลัดลงไปตามรูป
  • เมื่อแห้งดีแล้วนำออกจากพิมพ์
  • ระบายสีตกแต่ง ทิ้วไว้จนแห้งสนิท
  • เมื่อสีแห้งสนิท พ่นสเปร์ยเคลือบเงาทับ










วันอังคารที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2553


ชาวเกาหลีเชื่อว่า "อาหาร" คือยาในชีวิตประจําวัน


หากกินอาหารที่ไม่สอดคล้องกับสภาพร่างกายแล้ว อาจเจ็บป่วยได้ และหากเป็นการกินที่ไม่เหมาะสม เช่นเป็นเวลานาน โรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้นย่อมยากที่จะรักษาให้หายได้

ดังนั้น ชาวเกาหลีจึงมักใช้อาหารเป็นยา เช่น โสม ตังกุย และพืชผักสมุนไพรอื่นๆ ความจริงสมัยก่อนการปรุงอาหารของเกาหลีไม่นิยมใช้เครื่องปรุงรสมากนัก และพริก ก็เพิ่งแพร่หลายเมื่อศตวรรษที่ 16 ผ่านโปรตุเกส สเปน เข้ามาทางญี่ปุ่น

คนเกาหลีโบราณคิดว่า นอกจากทําให้อิ่มท้องแล้ว อาหารยังมีผลต้านการบํารุงร่างกาย "อาหาร-การโภชนาการ" กับ "การแพทย์" จึงมาจากแหล่งเดียว และพืชผักทุกชนิดล้วนมีสรรพคุณทางยา ใช้รักษาโรคภัยและบํารุงร่างกาย ในวังหลวงจึงมีแพทย์ทางโภชนาการคอยดูแลเรื่องอาหารการกิน โดยดูจากพระพลานามัยของพระราชา หยินและหยาง 5 ธาตุ ปรับเป็นสูตรอาหาร 5 รส บางครั้งก็ให้งดของแสลง เพื่อป้องกันโรคภัย ทําให้นางกํานัลต้องพลอยมีความรู้ด้านนี้ไปด้วย

นอกจากเน้นความอร่อยแล้ว สุขภาพของพระราชาก็เป็นสิ่งสําคัญ อาหารในวังหลวงนอกจากมีนางกํานัลคอยดูแลแล้ว บางส่วนก็ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งก็คือพ่อครัวมืออาชีพที่ชํานาญเรื่องอาหาร

จารึกทางประวัติศาสตร์ในราชวงศ์ "โชซอน" ว่ากันว่า การเสวยของพระราชาเกาหลีมักจะมีข้าวสองชาม ชามหนึ่งเป็นข้าวธรรมดา ส่วนอีกชามเป็นข้าวผสมข้าวเหนียว แล้วหุงด้วยน้ำถั่วแดง เพราะเชื่อว่าการกินข้าวแดงจะช่วยสะเดาะเคราะห์ให้พ้นภัย สมัยก่อนพระราชาเกาหลีจะเสวยวันละ 5 มื้อ มื้อเช้าที่สุดก็ประมาณ ตี 5 - ตี 6 เรียกว่า "มื้อรุ่งอรุณ" ส่วนมื้อเช้าประมาณสิบโมงเช้า ต่อด้วยมื้อเที่ยง มื้อเย็น และสุดท้ายคือมื้อดึก ส่วนใหญ่จะเป็นผลไม้ ขนมหวาน หรือเกี๊ยว

อาหารราชสํานักเป็นเรื่องราวความพิถีพิถันในการปรุงแต่งให้สวยงาม และเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง โดยอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารราชสํานัก คือ ซอล โล และ กูล ชอน พัน ที่มีวิธีการเสิร์ฟตามแบบประเพณีนิยม สิ่งสําคัญของอาหารราชสํานัก คือ พ่อครัวที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี จะต้องรู้จักคัดเลือก อาหารราชสํานักกับอาหารทั่วไปของเกาหลีนั้นไม่แตกต่างกันมากนัก

เพราะทั้งอาหารในวังและนอกวังนั้น ก็ส่งอิทธิพลระหว่างกัน หากจะมองถึงความแตกต่างอาหารราชสํานักจะไม่เน้นความจัดจ้านของรสชาติและเผ็ดเท่าอาหารทั่วไป

วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ลองทำดู หนูทำได้

าดับกลิ่นปากจากธรรมชาติ

ปัญหากลิ่นปากเหมือนจะเป็นเรื่องเล็ก แต่ทำให้เสียบุคลิกภาพ และแสดงถึงปัญหา
สุขภาพในช่องปากอีกด้วย การแก้ไขด้วยการใช้น้ำยาบ้วนปากบางชนิด ที่มีส่วนผสม
ของแอลกอฮอล์เกินมาตรฐาน (เข้มข้นมากกว่า 26%) ยังเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดมะเร็ง
บริเวณศรีษะ และลำคอ

การดับกลิ่นปากด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
ขอแนะนำ 2 สูตรน้ำยาดับกลิ่นปาก จากธรรมชาติ ดังนี้

1. ขิง และมะนาว
ใช้น้ำขิงสด 1 ช้อนชา, น้ำมะนาว 1 ช้อนชา และน้ำอุ่น 1 แก้ว
ผสมให้เข้ากัน ใช้กลั้วปากวันละ 1 ครั้ง หลังแปรงฟันในตอนเช้า
2. ใบฝรั่ง
ล้างใบฝรั่งให้สะอาด นำมาหรือตำให้ละเอียด ผสมกับน้ำเกลือ 0.9%(หาซื้อได้
ตามร้านขายยาทั่วไป) แช่ไว้ 10-15 นาที แล้วกรองเอาแต่น้ำ เก็บไว้ใช้บ้วนปาก

แม้จะมีส่วนผสมที่หาได้ง่าย และทำเองไม่ยาก แต่การแก้ที่ต้นตอของปัญหา
ที่แท้จริง คือ การดูแลสุขภาพของตนเองให้ดี ด้วยการทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ
และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จึงจะเป็นการช่วยให้สุขภาพดีจากภายใน
อย่างแท้จริง

ที่มา : นิตยสารชีวจิต ปีที่ 11 ฉบับ 1 มีนาคม 2552

ลองทำดู หนูทำได้

เปลือกไข่ประดับลาย

"เปลือกไข่ประดับลาย" งานประดิษฐ์ที่เรานำเสนอครั้งนี้ เป็นงานประดิษฐ์ที่ใช้อุปกรณ์ในการทำค่อนข้างน้อย และหาได้ง่ายๆทั่วไป วิธีทำก็แสนง่าย งานนี้เด็ก ๆ สามารถทำได้สบายเลยครับ...แต่ผลงานเมื่อสำเร็จออกมาแล้วกลับดูสวยงามจนคุณๆอดภูมิใจไม่ได้เลยทีเดียวครับ

สิ่งที่ต้องเตรียม

1. เปลือกไข่ที่ทำความสะอาดจนดีแล้ว หากไม่ต้องการใช้เปลือกไข่จริงๆ ก็สามารถใช้ไข่พลาสติก
หรือวัสดุอื่นรูปทรงไข่แทนได้ (ตามจำนวนที่ต้องการ)
2. กระดาษลายสวยงามต่างๆ
3. กาวลาเท็กซ์
4.. กรรไกร หรือ คัตเตอร์
5. น้ำยาเคลือบสีเล็บ
6. เทปกาว

วิธีทำ

1. เตรียมเปลือกไข่โดยการเจาะรูนำไข่ออก แล้วนำไปล้างให้สะอาดและตากให้แห้งสนิท จากนั้นนำเทปกาวมาปิดทับบริเวณที่เป็นรูนั้นเสีย

2. ตัดกระดาษให้ได้รูปทรงโค้งตามขอบของลาย ตัดเตรียมไว้หลายๆแบบ

3. ทากาวลาเท็กซ์ลงบนกระดาษลายที่ต้องการใช้ทีละชิ้น นำติดให้รอบเปลือกไข่

4. ติดทับซ้อนกันไปมาไม่ให้เหลือช่องว่าง โดยกำหนดลวดลายและสีสันตามจินตนาการของแต่ละคนเลยครับ...

5. เมื่อได้แบบที่ถูกใจแล้ว ปล่อยไว้จนมั่นใจว่ากาวแห้งสนิท จึงนำน้ำยาเคลือบเล็บมาลงเคลือบประมาณ 2-3 ชั้น

6. จะได้เปลือกไข่ประดับลายดังภาพนี้

7. สามารถนำไปวางประดับตามมุมต่างๆของบ้านหรือนำไปตกแต่งกระเช้าของขวัญให้สวยงามมากขึ้นได้เลยครับ...

ข้อแนะนำ

  • หากใช้เปลือกไข่จริงๆ ต้องมั่นใจว่าล้างสะอาด และตากจนแห้งสนิทแล้วจริงๆ เพื่อที่จะได้ใช้งานตั้งโชว์ได้จริง ไม่เช่นนั้นไข่อาจมีกลิ่นและขึ้นราได้

  • ในขั้นตอนการตัดกระดาษนั้น แนะนำว่าควรตัดกระดาษให้ได้รูปทรงโค้งตามขอบของลายเส้น เพื่อความสวยงาม

  • สำหรับในขั้นตอนการลงน้ำยาเคลือบนั้นควรลงประมาณ 2-3 ชั้น และในการลงเคลือบควรรอให้แต่ละชั้นนั้นแห้งสนิทก่อนที่จะลงมือทำการเคลือบในชั้นต่อๆไป

  • สามารถใช้พู่กันที่ใช้ระบายสีแทนพู่กันที่มาพร้อมกับขวดน้ำยาเคลือบเล็บได้ เพราะจะใหญ่และอาจถนัดมือสำหรับบางคนมากกว่า

วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เคล็บลับคู่ครัว

ขอดเกล็ดปลาไม่ใช่เรื่องยากถ้าคุณพ่อบ้าน-แม่บ้าน
ซื้อปลามาแบบที่ยังไม่ได้ถอดเกล็ดปลาออก ให้ชโลมเกล็ดปลาด้วยน้ำส้มสายชูเสียก่อนที่จะขอดเกล็ดปลา จะทำให้การขอดเกล็ดปลาหลุดออกง่ายขึ้น

ผัดผักบร๊อคโคลี่อย่างไรให้สุกพอดี
เมื่อถึงเมนูผัดผักบร๊อคโคลี่ พ่อบ้าน-แม่บ้านมักจะผัดก้านและดอกสุกไม่พร้อมกัน ดอกจะสุกก่อนก้านทุกที กว่าก้านจะสุกดอกก็ช้ำเสียแล้ว วิธีแก้คือ ให้ใช้มีดผ่าตรงกลางก้านแต่ไม่ให้ขาดออกจากกัน แล้วลองผัดใหม่สิคะ รับรองว่าสุกพร้อมกันแน่

ซื้อกระทะใหม่เวลาทำอาหารชอบติดก้นกระทะ
ซื้อกระทะใหม่ ๆ มา พอมาทำอาหาร ยิ่งประเภททอด ๆ นะ อาหารติดก้นกระทะหนึบเชียว ทำอย่างไรดี เรื่องนี้ง่ายมากค่ะ แค่ก่อนที่จะนำมาใช้ ก็ให้ทาเกลือให้ทั่วกระทะ หรือจะต้มน้ำข้าวจนแห้ง แล้วลอกเอาคราบน้ำข้าวออกมา จากนั้นนำกระทะไปล้างน้ำเปล่าจึงค่อยนำมาใช้ทำอาหาร ปัญหาการติดกระทะก็จะไม่เกิดขึ้นอีก

ต้มผักให้สีเขียวสวย
คนไทยนิยมกินน้ำพริกต่าง ๆ คู่กับผัก และน้ำพริกนี้ถือได้ว่าเป็นสำรับเอก ที่ใช้ในการรับแขก ซึ่งหากผักที่ใช้กินคู่กับน้ำพริกนั้นมีสีสันไม่น่ากิน ก็จะทำให้เ จ้าบ้านเกิดความอับอายได้ วิธีที่จะทำให้ผักมีสีสวยงาม คือ ใส่เกลือป่นลงในน้ำสำหรับต้มผักสีเขียว และเหยาะน้ำมันพืชเล็กน้อยจะทำให้ผักมีผิวมันน่ากินยิ่งขึ้น ส่วนผักสีขาว เช่นกะหล่ำปลี และหัวไชเท้า ให้ใส่น้ำส้มสายชูลงในน้ำที่ต้ม ผักจะมีสีขาวสวย

ทอดอาหารไม่ให้อมน้ำมัน
คนไทยนิยมกินอาหารทอดอย่างแพร่หลายเนื่องจากรสชาติที่กรอบ อร่อยและมีสีสันสวยงาม สิ่งสำคัญในการทอด คือ น้ำมัน นอกจากจะทำให้อาหารสุกแล้วยังเป็นตัวดูดซับวิตามิน A D E K อันจำเป็นต่อร่างกาย แต่น้ำมันนั้นเป็นอันตรายต่อผู้สูงอายุ และคนอ้วน ดังนั้นการกินอาหารทอดมากๆ จะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ วิธีที่ทำให้อาหารทอดไม่อมน้ำมัน คือใช้น้ำส้มสายชู 1 ช้อนชา ใส่ลงไปในน้ำมันที่ใช้ทอด เพียงแค่นี้คุณก็จะได้อาหารที่กรอบอร่อยไม่มันเลี่ยน

ทอดปลาไม่ให้ติดกระทะ
ปลาเป็นอาหารที่มีโปรตีนมาก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ เนื่องจากเป็นอาหารที่ย่อยง่าย และไม่มี คลอเรสเตอรอล นอกจากนั้นเนื้อปลายังมีไขมัน และแร่ธาตุอื่นๆเช่น แคลเซียม กับฟอสฟอรัส ซึ่งมีความจำเป็นต่อร่างกายอย่างมากปลาที่มีความสดใหม่นั้นเมื่อทอดหนังปลาจะไม่ติดกระทะต่างกับปลาที่ไม่สด แต่แม้ว่าปลาจะไม่สดอย่างไรก็มีวิธีแก้ไข คือ หลังจากขอดเกล็ดปลาเสร็จแล้ว นำไปล้างน้ำให้สะอาด ซับเนื้อปลาให้แห้งดี จึงใช้น้ำมะนาวทาให้ทั่วคลุกด้วยเกลือป่น จึงนำลงทอดในน้ำมันร้อน รอจนปลาลอยตัวขึ้นมาจึงค่อยพลิกกลับอีกด้านหนึ่ง (น้ำมันที่มีความเหมาะสมในการทอดปลาคือ น้ำมันจากสัตว์ หรือน้ำมันปาล์ม

ต้มไข่ที่ร้าวไม่ให้แตก
ไข่เป็นอาหารที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ เรียกได้ว่ากินไข่ฟองเดียวได้สารอาหารครบ 5 หมู่ ทุกครัวเรือนจึงต้องมีไข่ติดบ้านไว้ ไข่มีวิธีปรุงที่ง่ายแสนง่าย และยังปรุงได้ทั้งอาหารคาว และหวาน ไม่ว่าไข่ไก่หรือไข่เป็ดหากไม่ระมัดระวังในการถือ ไข่อาจจะกระทบกันทำให้เกิดรอยร้าว เมื่อเรานำไปต้ม ไข่ก็จะทะลักออกตามรอยร้าว ดังนั้นก่อนที่เราจะนำไข่ที่มีรอยร้าวไปต้มให้ใส่เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ในน้ำที่จะใช้ต้ม ความเค็มของเกลือจะช่วยปิดรอยร้าวของไข่ไม่ให้เนื้อไข่ไหลออกมา ในการต้มไข่ หากต้องการให้ไข่แดงเป็นยางมะตูมสวยน่ากินควรใช้เวลาต้มประมาณ 8 นาที

ต้มยำปลาอย่างไรไม่ให้เหม็นคาว
หลายๆ ท่าน คงประสบกับปัญหาเมื่อทำต้มยำปลาแล้วมีกลิ่นคาว ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากโดยธรรมชาติในปลาจะมีโปรตีนและไขมันอยู่ ปลาที่มีไขมันมากก็จะยิ่งมีกลิ่นคาวมาก โปรตีนในปลาจะละลายออกมาเมื่อถูกน้ำอุ่นและทำให้เกิดกลิ่นคาว การป้องกันกลิ่นคาวของปลาให้หมดไป ทำได้โดย ต้องต้มน้ำซุป ให้เดือดพล่านก่อนใส่ปลาลงไป รวมทั้งเมื่อใส่เนื้อปลาลงไปแล้วไม่ควรเขี่ยหรือคนเนื้อปลา จนกว่าเนื้อปลาจะสุกเสียก่อน เพียงเท่านี้กลิ่นคาวก็จะไม่หลงเหลืออีกต่อไป

ต้มไก่ตัวให้สวยหนังไม่ลอก
ทำความสะอาดไก่ ดึงขนที่ตกค้างตามส่วนต่างๆ ออกแล้วล้างให้สะอาดรวมทั้งข้างในตัวไก่ด้วย ใส่เกลือลงในท้องไก่ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ต้มน้ำให้เดือด นำไก่ลงต้มแล้วเบาไฟ น้ำควรท่วมตัวไก่ คอยเติมน้ำให้เดือดปุดๆ เล็กน้อย คอยช้อนฟองออก เพื่อป้องกันคราบฟองติดบนตัวไก่ ต้มนานประมาณ 30 - 40 นาทีจนไก่สุก

น้ำซุปไก่หวานอร่อย
การที่จะทำแกงจืด หรือก๋วยเตี๋ยวน้ำให้อร่อย เคล็ดลับ สำคัญอยู่ที่ความหอมหวานของน้ำซุป การต้มน้ำซุปให้มีรสอร่อย ต้องเริ่มที่ความสดของกระดูกซี่โครงไก่ โดยใช้สัดส่วนอยู่ที่ประมาณซี่โครงไก่ 1 กิโลกรัม ต่อน้ำประมาณ 7 - 8 ถ้วยตวง สับซี่โครงเป็นชิ้นใหญ่ๆ ล้างเศษเลือด และสิ่งสกปรกออก ต้มน้ำให้เดือด ใส่ซี่โครงลงไป รอจนน้ำเริ่มเดือดอีกครั้ง ให้หรี่ไฟอ่อนๆ ใส่หัวหอมใหญ่ที่ปอกเปลือกแล้วล้างให้สะอาดลงไป 1 หัว แล้วคอยช้อนฟองออก ถ้าน้ำพร่องให้เติมน้ำลงไปบ้าง เคี่ยวประมาณ 40-50 นาที จะได้น้ำซุปใส หอมหวาน

เจียวไข่ไม่ให้ด้าน
เจียวไข่แล้วไข่ด้านไม่น่าทานเลย ส่วนมากมักเกิดจากคุณแม่บ้านนำไข่ออกจากตู้เย็นแล้วนำมาเจียวเลย แก้ได้ง่าย ๆ ให้ตอกไข่ใส่ชามทิ้งไว้สักพักให้ไข่หายเย็น แล้วค่อยนำไปตีให้ฟูก่อนทอดในกระทะน้ำมันร้อน แค่นี้ไข่ก็ไม่ด้านแล้วค่ะ

ทำอย่างไรผักแช่เย็นจะดูสดใหม่
การเก็บผักไว้ในตู้เย็น อาจทำให้ผักดูไม่สด ไม่น่ารับประทาน วิธีง่ายๆ ที่จะคืนความสดให้กับผักทำได้โดยการเตรียมภาชนะใส่น้ำให้มีขนาดพอ เหมาะที่จะแช่ผัก จากนั้นตัดก้านผักออกบางส่วนโดยต้องตัดใต้ผิวน้ำทั้งนี้เพื่อไม่ให้ อากาศเข้าไปอุดตันทางเดินของน้ำ จากนั้นแช่ผักทิ้งไว้ในน้ำเย็นสักพัก ผักจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง น่ารับประทาน

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553

ขนมไทย



ขนมไทย เป็นของหวานที่ทำและรับประทานกันในอาณาจักรไทย มีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยคือ มีความละเอียดอ่อนประณีตในการเลือกสรรวัตถุดิบ วิธีการทำ ที่พิถีพิถัน รสชาติอร่อยหอมหวาน สีสันสวยงาม รูปลักษณ์ชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีการรับประทานที่ปราณีตบรรจงของขนมแต่ละชนิด ซึ่งยังแตกต่างกันไปตามลักษณะของขนมชนิดนั้นๆ
ขนมไทยในพิธีกรรมและความเชื่อ
การสะเดาะเคราะห์และแก้บนของศิลปินวายัง-มะโย่งของชาวไทยมุสลิมทางภาคใต้ ใช้ข้าวเหนียวสามสี (ขาว เหลือง แดง) ข้าวพอง (ฆีแน) ข้าวตอก (มือเตะ)รา (กาหงะ) และขนมเจาะหู[
ในพิธีเข้าสุหนัต< ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน นำเรือใหม่ลงน้ำ ชาวไทยมุสลิมนิยมทำขนมฆานม
ขนมที่ใช้ในงานแต่งงาน ในภาคกลางนอกกรุงเทพฯออกไปจะมีขนมกงเป็นหลัก นอกจากนั้นมีทองเอก ขนมชะมด ขนมสามเกลอ ขนมโพรงแสม ขนมรังนก บางแห่งใช่ขนมพระพายและขนมละมุดก็มี ในบางท้องถิ่น ใช้ กะละแม ข้าวเหนียวแดง ข้าวเหนียวแก้ว ขนมชั้น ขนมเปียก ขนมเปี๊ยะ ถ้าเป็นตอนเช้า ยังไม่ถึงเวลาอาหาร จะมีการเลี้ยงของว่างเรียก กินสามถ้วย ได้แก่ ข้าวเหนียวน้ำกะทิ ข้าวตอกนำกะทิ ลอดช่องน้ำกะทิ บางแห่งใช้ มันน้ำกะทิ เม็ดแมงลักน้ำกะทิ บางท้องถิ่นใช้ขนมต้มด้วย
พิธีแต่งงานของชาวไทยมุสลิม จะมีพิธีกินสมางัตซึ่งเป็นการป้อนข้าวและขนมให้เจ้าบ่าวเจ้าสาว ขนมที่ใช้มี กะละแมหรือขนมดอดอย ขนมก้อหรือตูปงปูตู ขนมลาและข้าวพอง
ขนมที่ใช้ในงานบวชและงานทอดกฐินของชาวไทยเชื้อสายมอญในจังหวัดราชบุรีได้แก่ ขนมปลาหางดอก และลอดช่องน้ำกะทิ ในงานศพ ชาวไทยเชื้อสายมอญในจังหวัดราชบุรีนิยมเลี้ยงเม็ดแมงลักน้ำกะทิ
การบูชาเทวดาในพิธีกรรมใดๆ เช่น ยกเสาเอก ตั้งศาลพระภูมิใช้ขนมต้มแดง ขนมต้มขาว เป็นหลักในเครื่องสังเวยชุดธรรมดาชุดใหญ่เพิ่ม ข้าวตอก งาคั่ว ถั่วทอง ฟักทองแกงบวด ในพิธีทำขวัญจุกใช้ขนมต้มขาวต้มแดงด้วยเช่นกัน เครื่องกระยาบวชในการไหว้ครูเพื่อทำผงอิทธิเจ ใช้ขนมต้มแดงต้มขาวเช่นกัน
พิธีเลี้ยงผีของชาวไทยเชื้อสายมอญในจังหวัดราชบุรีใช้ ขนมบัวลอย ขนมทอด
ขนมที่ใช้ในพิธีไหว้ครูมวยไทยและกระบี่กระบอง ได้แก่ แกงบวด (กล้วย เผือกหรือมัน) เผือกต้ม มันต้ม ขนมต้มแดงต้มขาว ขนมชั้น ถ้วยฟู ฝอยทอง เม็ดขนุน ทองหยอด
ในการเล่นผีหิ้งของชาวชอง บนหิ้งมีขนมต้ม ขนมเทียนเป็นเครื่องเซ่นด้วย

ขนมที่มีชื่อเสียงเฉพาะถิ่น
จังหวัดกรุงเทพมหานคร เขตธนบุรีมีขนมฝรั่งกุฎีจีน
จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด มีทุเรียนกวน
จังหวัดฉะเชิงเทรา มี ขนมชั้น
จังหวัดชลบุรี ตลาดหนองมน มี ข้าวหลาม
จังหวัดชุมพร มีขนมควายลุย
จังหวัดตรัง มี ขนมเค้กเมืองตรัง
จังหวัดนครปฐม มีขนมผิงและข้าวหลาม
จังหวัดนครสวรรค์ มี ขนมโมจิ ขนมฟักเขียวกวน
จังหวัดปราจีนบุรี มี ขนมเขียว
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่วนใหญ่เป็นผลไม้เชื่อ ผลไม้กวน เช่น มะยมเชื่อ พุทรากวน ที่ ตำบลท่าเรือ มีขนมบ้าบิ่น
จังหวัดพัทลุง มี ขนมก้านบัว
จังหวัดพิษณุโลก อำเภอบางกระทุ่ม มีกล้วยตาก
จังหวัดเพชรบุรี เป็นแหล่งที่มีขนมหวานที่มีชื่อเสียงมานาน โดยเฉพาะขนมที่ทำมาจากตาลโตนดเช่น จาวตาลเชื่อม โตนดทอด ตังเม ส่วนขนมชนิดอื่นที่มีชื่อเสียงตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เป็นต้นมาคือ ขนมขี้หนู ข้าวเกรียบงา ขนมหม้อแกง
ดูบทความหลักที่ ขนมเมืองเพชร
จังหวัดสตูล มี ขนมบุหงาบูดะ ขนมโรตีกาปาย และ ข้าวเหนียวกวนขาว
จังหวัดสมุทรปราการ มี ขนมจาก
จังหวัดสมุทรสาคร มีขนมจ่ามงกุฏ
จังหวัดสิงห์บุรี มีมะม่วงกวนหรือส้มลิ้ม
จังหวัดสุพรรณบุรี อำเภอบางปลาม้า มีขนมสาลี่
จังหวัดอ่างทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ มีขนมเกสรลำเจียก
จังหวัดอุทัยธานี หนองแก มี ขนมกง ขนมปังสังขยา